ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โชว์ฟอร์มสุดดุดัน ไล่ถล่มเรอัล มาดริด 4-0 ในรอบรองชนะเลิศศึกสโมสรโลก ผ่านเข้าสู่รอบชิงกับเชลซีอย่างมั่นใจ
ในศึกฟุตบอลสโมสรโลก 2025 รอบรองชนะเลิศที่ MetLife Stadium นิวยอร์ก สโมสรเปแอสเชจากฝรั่งเศสทำผลงานสุดยอดด้วยการเอาชนะเรอัล มาดริด ทีมแชมป์ยุโรป 4-0 แบบขาดลอย โดยฟาเบียน รุยซ์ ทำคนเดียว 2 ประตู ขณะที่อีก 2 ประตูได้จากลูกยิงสุดเฉียบของกอนซาโล รามอส และวิโตเนีย การ์ลอส ชัยชนะในนัดนี้ทำให้เปแอสเชทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับเชลซีในวันที่ 13 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้
การแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก (FIFA Club World Cup 2025) รอบรองชนะเลิศเมื่อคืนที่ผ่านมา ณ สนาม MetLife Stadium ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการพบกันระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) ตัวแทนจากยุโรป กับ เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลล่าสุด
เปแอสเชภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ โชว์ฟอร์มอย่างเหนือชั้นตั้งแต่นาทีแรก ไล่กดดันเรอัล มาดริดตลอดทั้งเกม และเป็นฝ่ายที่ครองเกมบุกได้อย่างชัดเจน
เกมนี้ฮีโร่ของเปแอสเชคือ ฟาเบียน รุยซ์ กองกลางทีมชาติสเปน ที่จัดการเหมาคนเดียวสองประตูในครึ่งแรก นาทีที่ 19 และ 33 จากการยิงไกลนอกกรอบสุดสวย และการจบสกอร์ในเขตโทษแบบเยือกเย็น
ครึ่งหลัง เปแอสเชยังไม่ผ่อนเกม นาทีที่ 57 กอนซาโล รามอส ศูนย์หน้าชาวโปรตุเกส โฉบเข้ามาโหม่งจากลูกเปิดของอัชราฟ ฮาคิมี เข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูที่สาม
จากนั้นในนาทีที่ 78 วิโตเนีย การ์ลอส ปีกตัวสำรองของเปแอสเชก็เติมขึ้นมายิงประตูปิดท้ายอย่างเด็ดขาด ส่งผลให้จบเกม เปแอสเช เอาชนะ เรอัล มาดริด ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0
ชัยชนะในเกมนี้ทำให้ เปแอสเช ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกสโมสรโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 โดยพวกเขาจะพบกับ เชลซี ตัวแทนจากอังกฤษที่เอาชนะฟลูมิเนนเซ่มาในอีกคู่
เปแอสเชถือว่าทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเอาชนะคู่แข่งอย่างขาดลอยมาแล้วสองนัด และกำลังมุ่งมั่นคว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ด้านเรอัล มาดริด ซึ่งพักผู้เล่นตัวหลักบางรายในเกมนี้ ต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเตรียมลงเล่นในรอบชิงอันดับ 3 แทน
บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยแฟนบอลทั้งสองทีมกว่า 75,000 คน โดยส่วนใหญ่ประทับใจในความเร็วและการเข้าทำของเปแอสเช ที่เต็มไปด้วยความแม่นยำและความกระหายชัยชนะ
เกมรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 13 กรกฎาคม จะถูกจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะการดวลกันระหว่างสองกุนซือมากฝีมือ หลุยส์ เอ็นริเก้ ของเปแอสเช และเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ของเชลซี
หากเปแอสเชคว้าแชมป์ได้ จะเป็นการประกาศศักดาบนเวทีโลกอีกครั้ง และเป็นเกียรติสูงสุดของสโมสรจากฝรั่งเศสที่เคยเข้าใกล้แต่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน