หลังความพ่ายแพ้ในรอบชิงสโมสรโลก หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้จัดการทีมเปแอสเช เกิดเหตุชุลมุนกับโจอาโซ เปโดร นักเตะเชลซี ก่อนจะออกมากล่าวขอโทษในเวลาต่อมา
ในรอบชิงชนะเลิศสโมสรโลกที่เชลซีเอาชนะเปแอสเช 3-0 หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือเปแอสเชเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกับนักเตะฝั่งตรงข้าม ขณะเดินจับมือหลังเกม โดยผลักโจอาโซ เปโดร และเกือบมีการปะทะกัน โค้ชชาวสเปนยอมรับว่าเขาหลงอารมณ์เพราะความกดดันสูง ก่อนจะออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการในห้องแถลงข่าว โดยเน้นว่าไม่สมควรเกิดขึ้นและจะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำอีกในอนาคต
หลังจบเกมที่เชลซีถล่มปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-0 คว้าแชมป์สโมสรโลกสมัยแรกได้สำเร็จ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อ หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือเปแอสเช ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ในช่วงเดินจับมือ เขาผลักใส่ โจอาโซ เปโดร นักเตะเชลซี จนบรรยากาศบริเวณข้างสนามเริ่มตึงเครียด โชคดีที่เจ้าหน้าที่และนักเตะฝ่ายอื่นเข้ามาห้ามทันก่อนเรื่องจะลุกลามไปไกล
หลังเหตุการณ์สงบ หลุยส์ เอ็นริเก้ ได้แถลงข่าวพร้อมขอโทษต่อหน้าสื่อ โดยระบุว่า “เป็นอารมณ์ชั่ววูบ” และ “ไม่สมควรเกิดขึ้น” พร้อมกล่าวยอมรับว่าตนเองเครียดจากเกมการแข่งขันและผลที่ออกมาไม่เป็นตามที่หวัง ทั้งยังขอโทษ โจอาโซ เปโดร และทีมเชลซีสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ฝ่ายเชลซี โดยเฉพาะโค้ช เอนโซ่ มาเรสก้า และนักเตะในทีม ยังไม่ได้ออกความเห็นในเชิงลบใด ๆ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์จบลงด้วยดี และทุกฝ่ายต่างเข้าใจในอารมณ์ของกันและกัน พร้อมเดินหน้าเฉลิมฉลองแชมป์ที่ประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างเต็มที่
การแสดงพฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้ หลุยส์ เอ็นริเก้ ถูกตั้งคำถามจากแฟนบอลเปแอสเชบางส่วนเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของทีมในระดับนานาชาติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเขาจะไม่ถูกลงโทษรุนแรงจากต้นสังกัดหรือฟีฟ่า เนื่องจากได้ขอโทษอย่างเปิดเผย และไม่มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายรุนแรงเกิดขึ้น
เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญอีกครั้งสำหรับผู้จัดการทีมระดับโลก ในการควบคุมอารมณ์หลังความพ่ายแพ้ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่การกระทำกลับถูกจับตามองไปทั่วโลก และแสดงถึงความสำคัญของภาพลักษณ์ของผู้นำทีมในยุคที่สื่อออนไลน์รายงานทุกการเคลื่อนไหวทันที