ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของอาร์เน่ สลอต เริ่มต้นปรีซีซันได้อย่างมั่นใจ เน้นระบบเพรสซิ่งสูงและการเชื่อมเกมระหว่างกลางสนามกับแดนหน้าอย่างรวดเร็ว การซ้อมและเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในแผนการเล่นใหม่ โดยเฉพาะการใช้ฟลอเรียน วีร์ทซ์ เชื่อมบอลจากกลางสู่ปีกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บอร์นมัธก็ใช้ปรีซีซันปรับโครงสร้างเกมรับและเสริมความหลากหลายให้กับแนวรุก แม้จะมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บบางราย แต่ก็ยังรักษามาตรฐานความฟิตได้ดี
ลิเวอร์พูลมีนักเตะใหม่หลายคนที่เข้ามาเสริมศักยภาพทีมทันที เช่น ฟริมปง ที่เพิ่มมิติการบุกจากแบ็กขวา เคอร์เคซ ที่เติมเกมจากฝั่งซ้ายได้ดุดัน และมามาร์ดัชวิลี ที่พร้อมสลับกับอาลีสซงในตำแหน่งผู้รักษาประตู บอร์นมัธเองก็ได้ตัว ดิอาคิเต้ มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งในเกมรับ รวมถึง อาเดรียง ตรุแฟร์ ที่มีจุดเด่นในเรื่องการยืนตำแหน่งและตัดเกมริมเส้น การปรับตัวของนักเตะเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลงานในนัดเปิดฤดูกาล
สำหรับลิเวอร์พูล จุดแข็งชัดเจนคือความเร็วและการเคลื่อนที่ของแนวรุก การประสานงานระหว่างซาลาห์ วีร์ทซ์ และกักโป สามารถสร้างโอกาสได้หลากหลาย ส่วนจุดอ่อนที่ต้องระวังคือความสมดุลในเกมรับเมื่อแบ็กสองฝั่งเติมขึ้นสูง บอร์นมัธมีจุดแข็งในเกมโต้กลับที่รวดเร็ว โดยใช้ความเร็วของเซเมนโย และอูอัตตารา เจาะแนวรับที่ดันสูงของคู่แข่ง แต่จุดอ่อนคือการยืนโซนในแดนกลางที่อาจปล่อยให้คู่แข่งสร้างโอกาสจบสกอร์ได้
ลิเวอร์พูลมีแนวโน้มใช้ระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ขึ้นอยู่กับการจัดแดนกลาง วีร์ทซ์อาจถูกใช้เป็นตัวสร้างเกมหลัก ขณะที่ซาลาห์จะหาจังหวะตัดเข้าในเพื่อจบสกอร์ ส่วนบอร์นมัธน่าจะมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน แต่เน้นเกมรับเป็นหลักและรอจังหวะสวนกลับ การแพ็คพื้นที่แดนกลางให้แน่นและบีบไลน์ส่งบอลของลิเวอร์พูลจะเป็นกลยุทธ์หลักของอิราโอล่า
การเปิดสนามแอนฟิลด์ในเกมลีกนัดแรกของฤดูกาลย่อมสร้างแรงจูงใจให้ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มเพื่อเริ่มต้นซีซันอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกัน บอร์นมัธเองก็ต้องการแสดงศักยภาพว่าพวกเขาสามารถต่อกรกับทีมใหญ่ได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ถูกมองว่าเป็นรองทุกด้าน แรงกดดันของทีมเยือนอาจทำให้ต้องเล่นรัดกุมเป็นพิเศษ
ลิเวอร์พูลเพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อน ทำให้สภาพจิตใจของนักเตะอยู่ในระดับสูง บวกกับแฟนบอลในบ้านที่พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ขณะที่บอร์นมัธจบซีซันก่อนด้วยฟอร์มที่ดี แต่การปรับทีมในช่วงปิดฤดูกาลทำให้ต้องใช้เวลาสร้างความเข้าใจระหว่างผู้เล่นใหม่และเก่า ซึ่งอาจกระทบความมั่นใจเล็กน้อย
ฝั่งลิเวอร์พูล อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ สามารถลงมาเพิ่มความสดและความหลากหลายในการบุก ส่วนบอร์นมัธอาจใช้ เจย์เดน แอนโทนี หรืออูนาล ลงมาเพื่อเพิ่มแรงกดดันในช่วงท้ายเกม โดยเฉพาะหากต้องการประตูตีเสมอหรือประตูชัย
แอนฟิลด์ขึ้นชื่อในเรื่องบรรยากาศที่สุดยอด โดยเฉพาะในเกมเปิดบ้านแรกของฤดูกาล เสียงเชียร์จากแฟนบอลสามารถสร้างแรงขับเคลื่อนให้กับนักเตะได้อย่างมาก ส่วนสภาพอากาศในวันแข่งขันคาดว่าจะเหมาะสมต่อการเล่นฟุตบอล ไม่มีฝนตกหนักหรือลมแรงที่อาจส่งผลต่อรูปเกม
แม้ลิเวอร์พูลจะเป็นต่ออย่างชัดเจน แต่บอร์นมัธยังมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้ หากสามารถทำประตูนำได้ก่อนจากการสวนกลับ หรือหากลิเวอร์พูลพลาดในจังหวะสำคัญ การเล่นเกมรับอย่างมีวินัยและรอจังหวะโต้กลับเพียงไม่กี่ครั้งก็อาจเพียงพอให้ทีมเยือนได้แต้มกลับบ้าน
จากข้อมูลและปัจจัยทั้งหมด ลิเวอร์พูลมีความพร้อมมากกว่า ทั้งในด้านคุณภาพนักเตะ แท็กติก และการสนับสนุนจากแฟนบอลในบ้าน เกมนี้น่าจะเป็นการครองบอลและบุกต่อเนื่องของเจ้าบ้าน ขณะที่บอร์นมัธต้องเล่นแบบรัดกุมสุด ๆ เพื่อหวังเก็บแต้ม ความเป็นไปได้สูงคือเจ้าบ้านจะคว้าชัย แต่สกอร์อาจไม่ขาดมากนักหากบอร์นมัธเล่นเกมรับได้อย่างมีวินัย